เกมนี้ “ปืนใหญ่” ออกสตาร์ตด้วยแท็กติกระมัดระวังตามสไตล์ของ มิเกล อาร์เตต้า แต่กลับเสียประตูเร็วตั้งแต่นาที 9 เมื่อเออร์ลิง ฮาลันด์ หลุดเข้าไปยิงเป็นประตูที่ 7 ของเจ้าตัวในฤดูกาลนี้ หลังจากนั้นทีมเยือนถอยลงมาเล่นเกมรับแน่นหนา เป๊ป กวาร์ดิโอลา ถึงขั้นปรับระบบเป็น 5-4-1 และปล่อยให้เจ้าถิ่นบุกใส่แทบตลอด

อาร์เซนอลพยายามเร่งเกม ครึ่งหลังอาร์เตต้าส่ง เอเบเรชี เอเซ และ บูกาโย่ ซาก้า ลงสนามเพื่อเพิ่มความดุดัน แต่ก็ยังเจาะไม่เข้า ขณะที่ซิตี้มีจังหวะสวนกลับเกือบฝังเกมจากฮาลันด์ แต่ ดาวิด รายา เซฟช่วยไว้ได้

จนกระทั่งช่วงทดเจ็บ นาที 90+3 อาร์เซนอลได้เฮสนั่นสนาม เมื่อเอเซชิพบอลข้ามแนวรับให้ มาร์ติเนลลี่ สปีดหลุดเข้าไป ก่อนแตะบอลแล้วซัดด้วยขวาโค้งข้าม จานลุยจิ ดอนนารุมมา เสียบเสาสุดสวย เป็นประตูตีเสมอ 1-1 และกลายเป็นโมเมนต์แห่งความโล่งใจและสะใจของกองเชียร์เจ้าถิ่น

แม้ผลเสมอจะไม่ใช่สิ่งที่อาร์เซนอลต้องการ แต่ก็ช่วยให้เก็บแต้มสำคัญจากคู่แข่งลุ้นแชมป์ โดยมี ลิเวอร์พูล จ่าฝูง เป็นผู้ได้ประโยชน์มากที่สุดจากผลการแข่งขันนี้ ขณะที่กวาร์ดิโอลาถูกตั้งคำถามกับการเลือกใช้ผู้เล่นชุดเดิม แม้ทีมเพิ่งผ่านศึกแชมเปียนส์ลีกมาก่อนก็ตาม

สำหรับอาร์เซนอล ถือว่าเป็นแต้มที่ได้มาจากความพยายามไม่ย่อท้อ ส่วนแมนฯ ซิตี้ ต้องผิดหวังหลังเกือบคว้าชัยชนะด้วยแท็กติกเน้นรับแบบไม่คุ้นตาแฟนบอล.